สาส์นจากอธิการบดี

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่

พระพรหมบัณฑิต

อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เราทำบุญทำกุศลเพื่อความเป็นสิริมงคล นำมาซึ่งความสุขสวัสดีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใน ปีนี้มหาเถรสมาคมได้มีคำสั่งให้วัดวาอารามทั่วราชอาณาจักรจัดทำพิธีสวดมนต์ ข้ามปี คืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ จนถึงเช้าวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้ชาวพุทธได้มีส่วนร่วมในการสวดมนต์ข้ามปีโดยพร้อมเพรียงกันทั่ว ประเทศ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้คนทั้งในประเทศและทั่วโลกได้มีส่วนร่วม ร้อยใจเป็นหนึ่งเดียวทำความดีด้วยกัน กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีสร้างความสามัคคีซึ่งนำความสุขมาให้ ดังพุทธภาษิตว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี แปลความว่า ความสามัคคีพร้อมเพรียงของหมู่คณะนำความสุขมาให้

ความสามัคคี หมายถึง ความมีน้ำหนึ่งใจเดียว ทำอะไรด้วยความคิดคล้ายกัน ชาว ไทยสวดมนต์ข้ามปีมีจิตใจมองเห็นความดีงามและสวดมนต์ไปพร้อมๆกัน ถ้าสวดแต่ปาก แต่ใจล่องลอยไปที่อื่น อย่างนี้เรียกว่าสวดมนต์ไม่ได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียว และ เราจะไม่มีความสุขเพราะว่าใจไม่เต็มร้อย ความสุขไม่เกิด ในบ้านเมืองเรา ถ้ามีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันบ้านจะมีความสุข วัดก็มีความสุข ประเทศก็มีความสุข

สำนักโพลได้สำรวจความเห็นประชาชนว่า ข่าวอะไรที่ทำให้คนไทยมีความสุขมากที่สุดในรอบปี ๒๕๕๕ เสียงส่วนใหญ่ตอบว่า ภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เสด็จออกมหาสมาคมเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคมที่ผ่านมาเป็นข่าวที่ทำให้ประชาชนมีความสุขมากที่สุด ภาพในวันนั้นที่มีพสกนิกรจำนวนไม่น้อยกว่าสองแสนคนรอเฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมใจกันแต่งชุดสีเหลืองงามสะพรั่งโบกธงทั่วถนนราชดำเนินสมัครสมานสามัคคี รวมใจเป็นหนึ่งแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นศูนย์รวมใจของไทยทั้งชาติ ต่างคนต่างมารอเฝ้ารับเสด็จฯ ถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่ทะเลาะกัน จึงทำให้เกิดมหาสมาคมของคนที่มีสมัครสมานสามัคคี เป็นภาพที่นำความสุขมาให้คนไทยมากที่สุดในรอบปี

นอกจากคนไทยจะมีความสุขจากสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ข่าวที่ทำให้คนไทยมีความสุขจากสถาบันพระพุทธศาสนา คือข่าวการฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คนไทยได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองทำความดีถวายเป็นพุทธบูชากันทั้ง ประเทศ ไม่ใช่เฉพาะในช่วงวันวิสาขบูชาเท่านั้น แต่ยังทำมาจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่การสวดมนต์ข้ามปีก็เป็นการฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภาพแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสร้างความสุขให้แก่ชาติบ้านเมือง เพราะว่าความสามัคคีมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันทำให้คนไทยมีความสุข คนพายเรือแข่งที่พายพร้อมกันเรือก็แล่นเร็ว ถ้าหากว่าเราช่วยกันพายช่วยกันถ่อเรือก็แล่นเร็วขึ้น ในการทำงานก็เหมือนกัน ถ้าแต่ละคนพร้อมเพรียงร่วมใจกันทำงาน งานหนักจะกลายเป็นงานเบา งานใหญ่จะกลายเป็นงานเล็ก

ความสามัคคีทำให้มีความสุข ตอนที่น้ำท่วมประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา คนไทยทุกข์กันถ้วนหน้า แม้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็จมน้ำ คนไทยที่น้ำไม่ท่วมบ้านพอเห็นคนเพราะอื่นเป็นทุกข์ถูกน้ำท่วม ต้องออก ไปช่วยเหลือกัน แม้ไม่ได้บริจาคเงินทองอะไรแต่รู้สึกสบายใจที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยคนอื่น ในยามทุกข์ เมื่อมีส่วนร่วมในการแก้ทุกข์ ความทุกข์ของเราจะละลายไปกับสายน้ำ เรามีความสุขที่ได้ทำความดีร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงกันดังพระบาลีว่า สมคฺคานํ ตโป สุโข แปลว่า ความเพียรของคนที่สมัครสมานสามัคคี นำความสุขมาให้

การทำอะไรพร้อมๆ กันด้วยจิตเจตนาร่วมกันมีความสุข ดังที่คนไทยได้ทำความดีพร้อมกันเพื่อพระเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยจึงมีความสุข เราได้ฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพร้อมเพรียงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ พระทั่วโลกจาก ๘๕ ประเทศมาร่วมฉลองกับเรา ภาพเหล่านี้ทำให้คนไทยมีความสุข

ตรงกันข้าม ภาพที่คนประชุมกันแล้วด่ากันทะเลาะกันทำให้มีความทุกข์ทันที เพราะแสดงถึงการแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า น้ำท่วมหายไปแล้วก็ยังไม่หายแค้น น้ำชโลมใจแทนที่จะทำให้เย็นใจกลับเพิ่มความเร่าร้อน เพราะฉะนั้น ความสุข ความทุกข์อยู่ที่เราสมัครสมานสามัคคีกันเพียงไร ปีนี้คนไทยมีความสมัครสมานสามัคคีกันดีจึงไม่ทะเลาะกันมากนัก

แกลลัปโพลของสหรัฐอเมริกา ได้ทำแบบสอบถามทั่วโลก ๑๔๘ ประเทศในรอบปีที่ผ่านมาโดยสุ่มตัวอย่างถามคนในประเทศเหล่านั้น เช่นถามว่า ช่วงนี้คุณยิ้มบ่อยไหม ได้หัวเราะบ่อยไหม ได้รับการยอมรับจากคนอื่นไหม ได้พักผ่อนนอนหลับสบายไหม เขาถามทำนองนี้ เป็นคำถามถึงความรู้สึกเป็นสุข เป็นการถามเรื่องมนุษยสัมพันธ์ช่วยเหลือเกื้อกูลความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เขาถามคนทั่วโลก ๑๔๘ ประเทศ ปรากฏผลออกมาว่า ประเทศไทยได้อันดับ ๓ ในบรรดาประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก และเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย เรื่องความมีน้ำใจสมัครสมานสามัคคี ยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยเหลือเกื้อกูลกันทำให้เพื่อนมีความสุข ประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ประเทศสิงคโปร์ที่มีเงินทองมากมาย แต่แข่งขันเอาเป็นเอาตาย จึงไม่มีใครยิ้มให้ใคร

ดังนั้น ความร่ำรวยใช่ว่าจะให้ความสุขเสมอไป ในบ้านหลังใหญ่ สมาชิกแทบจะไม่ได้เห็นหน้ากันเลย ไม่มีเวลาแม้จะทานข้าวร่วมกัน พ่อแม่ไปคนละทางสองทาง ในบ้านนั้นจะมีแต่ความว้าเหว่ ไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันและยิ้มให้กัน คนเราไม่ได้เป็นคนโรคจิตจะได้ยิ้มอยู่คนเดียว เวลาเรายิ้มต้องมีคนยิ้มรับ ปี ใหม่นี้เราจะได้ของขวัญกี่ชิ้น ของขวัญจะมากน้อยไม่สำคัญหรอก แต่สำคัญตรงที่มีคนมาแสดงน้ำใจแก่เราและเราไปแสดงน้ำใจแก่เขา ไปเยี่ยมเยียนเขา ฉะนั้นคนที่ให้อะไรแก่คนอื่น อย่างน้อยจะได้รับคำขอบคุณหรือได้รับรอยยิ้ม ดังพุทธภาษิตว่า ปูชโก ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ แปลว่า บูชาเขาเขาก็บูชาตอบ ไหว้เขา เขาก็ไหว้ตอบ ถ้าหากว่าเรามัวแต่ถือทิฐิมานะเย่อหยิ่งจองหอง ไม่เคยไปเยี่ยมเยียนใคร คงไม่มีใครจะมาตอบแทนน้ำใจเรา บางคนทะเลาะกับเพื่อนไม่พูดกันเป็นปี ปีใหม่แล้วยังไม่ยอมโทรศัพท์ไปคืนดีกัน ทำอย่างนี้แล้วเขาจะมีความสุขได้อย่างไร

คนไทยโชคดีที่มีพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เมืองไทยจึงเป็นสยามเมืองยิ้ม คนไทยยิ้มให้กันและกัน จึงไม่แปลกที่ไทยครองสถิติเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียและเป็นอันดับสามของโลก คน ไทยมีความสุขทั้งๆ ที่ประเทศเราจนกว่าหลายประเทศ คนไทยมีสิทธิที่จะมีความสุข ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เรายิ้มได้เมื่อภัยมา ไม่โศกาเมื่อภัยมี

มีคำกล่าวไว้ว่า บริวารมาเพราะน้ำใจมี บริวารหนีเพราะน้ำใจลด บริวารหมดเพราะน้ำใจแห้ง เราต้องถามตัวเราเองว่าปีใหม่นี้บริวารหายหน้าหายตาไปเพราะอะไร เพราะเราเป็นคนแล้งน้ำใจหรือไม่ เมื่อ แล้งน้ำใจใครก็ไม่อยากเข้ามาหา ถ้าเด็กเข้าพบผู้ใหญ่ทีไรเป็นโดนดุด่าทุกที เด็กก็ไม่อยากเข้าใกล้ผู้ใหญ่ เคยสังเกตไหมทำไมกลางคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ พระ จันทร์เต็มดวง มีดาวในท้องฟ้าสวยงาม แต่ในเวลากลางวันดาวเหล่านั้นหายไปหมด ไม่มีดวงดาวบนท้องฟ้าในเวลากลางวัน แต่พอพระอาทิตย์ลับหายไป ดวงดาวขึ้นมาเต็มท้องฟ้า ทั้งนี้ เพราะว่าเวลาพระจันทร์ขึ้นในเวลากลางคืน แสงจันทร์นวลเย็น ความมีน้ำใจให้ความชุ่มเย็นเหมือนแสงจันทร์ ตรงกันข้ามถ้าเอาแต่โมโหโทโสว่าร้ายนินทาคนนั้นคนนี้ คนก็หนีหายไปหมด เหมือนดวงดาวหายไปจากท้องฟ้าเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ดังโคลงโลกนิติที่ว่า

“ อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย
หยาบบ่มีเกลอกราย เกลื่อนใกล้
ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา
สุริยะส่องดาราไร้ เมื่อร้อนแรงแสง ”

พระพุทธเจ้าสอนให้พระภิกษุทั้งหลายเวลาญาติโยมมาวัดต้องทักก่อน ปุพพภาสี คือทักเขาก่อน เพราะเราอยู่ที่วัดเป็นเจ้าของบ้าน ทักเขาหน่อยก็ยังดี อุตตานมุขี แปลว่า หน้าหงาย ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ใช่เดินหน้าคว่ำ ชาวมหาจุฬาฯควรต้อนรับผู้มาเยือนด้วยธรรมปฏิสันถารและไมตรีจิต

ความมีน้ำใจถ้อยทีถ้อย อาศัยทำให้คนไทยมีความสุข หวังว่าปีใหม่ ๒๕๕๖ คนไทยจะยิ้มแย้มแจ่มใส โอภาปราศรัยกัน เราก็จะได้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดของเอเชียไปอีกนาน

มีภาษิตว่า Charity begins at home ความมีน้ำใจเริ่มต้นที่บ้าน ฉะนั้น ในปีใหม่นี้เป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทำความดีให้แก่ คนใกล้ชิดเป็นอันดับแรก จากนั้นก็แสดงน้ำใจแก่คนนอกบ้าน ไปเยี่ยมเยือนกัน ให้ของขวัญปีใหม่แสดงน้ำใจต่อกัน ร่วมกันสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความสวัสดีมีชัยตลอดปีใหม่และตลอดไป